การตีความ หมายถึง อะไร?
"การอ่านตีความ หมายถึง การอ่านเพื่อให้เข้าใจความหมายหรือความคิดสำคัญของเรื่อง รวมไปถึงความรู้สึกและอารมณ์จากบทประพันธ์"
***การอ่านแปลความ ตีความ ขยายความ ต่างกันนะคะ
คุณค่าของงานเขียนไม่ได้ขึ้นอยู่กับความบันเทิงของเรื่อง
แต่ขึ้นอยู่กับสิ่งที่จะได้จากเนื้อเรื่อง
เป็นเหตุผลที่คุณครูถามข้อคิดที่ได้จากเรื่องที่อ่านเสมอไงคะ ^^
เพราะฉะนั้น การตีความจึงเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะทำให้การอ่านของเราประสบความสำเร็จ!
เพราะฉะนั้น การตีความจึงเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะทำให้การอ่านของเราประสบความสำเร็จ!
สำหรับผู้ที่ถ่ายทอดเรื่องราวผ่านตัวหนังสือมาให้เราอ่านกัน ไม่ใช่ว่าอยู่ๆก็เขียนซุ่มสี่ ซุ่มห้านะคะ ไม่งั้นใครๆก็คงเป็นนักเขียนได้สบายๆไปแล้ว
แต่เขาเขียนจากประสบการณ์ ความรู้สึก หรืออารมณ์ค่ะ
โดยพื้นฐานคนเราทุกคนมีความต้องการอยากได้ อยากมี อยากเป็นอยู่ลึกๆ
แต่ส่วนใหญ่จะไม่เป็นไปตามที่หวัง
จึงต้องพยายามลดอาการผิดหวังด้วยการระบายออกมาไม่ทางใดก็ทางหนึ่งค่ะ
แต่ก็มีหลายคนที่แบ่งปันความสุขสมหวังผ่านการเขียนนะคะ :)
นิทานคำกลอนพระอภัยมณี
นิทานคำกลอนพระอภัยมณี
พระอภัยมณี
|
|
กวี :
|
สุนทรภู่
|
ประเภท :
|
นิทานคำกลอน
|
คำประพันธ์ :
|
กลอนสุภาพ
|
ความยาว :
|
94 เล่มสมุดไทย
|
สมัย :
|
ต้นรัตนโกสินทร์
|
ปีที่แต่ง :
|
เราจะรู้ได้อย่างไรว่า กวีเอกสุนทรภู่ต้องการสื่ออะไรผ่านนิทานพระอภัยมณี?
พื้นฐานง่ายๆสำหรับการอ่าน
1.รู้ว่าใคร ทำอะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ ทำไม อย่างไร
2.รู้เกี่ยวกับภูมิหลังของผู้เขียน เช่น ประวัติส่วนตัว การศึกษา
3.รู้สถานการณ์ของสังคมในขณะนั้น
4.นำข้อมูลทั้งหมดมาเชื่อมโยงกันให้ได้
ถ้า
เราอ่านเนื้อเรื่องจนเข้าใจบวกกับพอรู้ว่าผู้เขียนผ่านอะไร เจออะไรมาบ้าง
ก็จะสามารถรู้ได้ว่าเขากำลังสื่ออะไรผ่านเนื้อเรื่องค่ะ(คล้ายๆเวลาตามอ่าน
สเตตัสคนอื่นนะคะ^^)
การ
ตีความของแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับความสามารถ ประสบการณ์
และทัศนคติค่ะ ไม่มีใครถูกไม่มีใครผิด แต่ขึ้นอยู่กับว่า
เราจะตีความได้ใกล้เคียงกับสิ่งที่ผู้เขียนต้องการสื่อได้มากแค่ไหน
1.ใคร ?
2.ทำอะไร ?
เยอะมากๆ แต่ส่วนสำคัญอยู่ในวรรคทองต่างๆของเรื่องนั่นแหละค่ะ
และอย่าลืมจุดเด่นของเรื่องนะคะ "ปี่"ที่พระอภัยมณีเป่า
"แม้นปี่เราเป่าไปให้ได้ยิน | ก็สุดสิ้นโทโสที่โกรธา |
ให้ใจอ่อนนอนหลับลืมสติ | อันลัทธิดนตรีดีหนักหนา |
ซึ่งสงสัยไม่สิ้นในวิญญาณ์ | จงนิทราเถิดจะเป่าให้เจ้าฟัง" |
(พระอภัยมณีอธิบายความวิเศษของดนตรีให้ศรีสุวรรณและสามพราหมณ์ฟัง)
เพลงที่พระอภัยมณีเป่าสามารถทำให้คนหายโกรธได้ ทำให้คนหลงรักได้ และฆ่าคนก็ได้...
มีคนตั้งสมมุติฐานว่า ปี่ในเรื่องเป็นตัวแทนของ "ปัญญา" ค่ะ >> http://www.reurnthai.com/index.php?topic=2655.20;wap2
3.ที่ไหน?
แผนที่แสดงฉากและบ้านเมืองต่าง ๆ ในพระอภัยมณีอยู่ทางทะเลอันดามัน ฉบับปรับปรุงใหม่ จากข้อเสนอของ "กาญจนาคพันธุ์" (ขุนวิจิตรมาตรา) เป็นท่านแรก ในพ.ศ. ๒๔๙๐ |
4.เมื่อไหร่ ?
พระอภัยมณี
|
|
กวี :
|
สุนทรภู่
|
ประเภท :
|
นิทานคำกลอน
|
คำประพันธ์ :
|
กลอนสุภาพ
|
ความยาว :
|
94 เล่มสมุดไทย
|
สมัย :
|
ต้นรัตนโกสินทร์
|
ปีที่แต่ง :
|
จากข้างบนเลยค่ะ ^^
5.อย่างไร? ทำไม?
อันนี้ต้องไปวิเคราะห์กันในหนังสือเลยนะคะ
6.ภูมิหลังผู้เขียน
จากwikipedia
สุจิตต์ วงษ์เทศ ศิลปินแห่งชาติ "สุนทรภู่ เกิดวังหลัง ผู้ดีบางกอก มหากวีกระฎุมพี มีวิชารู้เท่าทันโลกและชีวิต"
7.สถานการณ์ขณะนั้น
หาใน google เลยค่ะ เช่น
- ประวัติศาสตร์ชาติไทย
- ประวัติศาสตร์ไทยสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น (รัชกาลที่ 1-3)
- ประวัติศาสตร์ไทยสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น (รัชกาลที่ 1-รัชกาลที่ 3)
เจ็ดขั้นตอนก่อนหน้านี้ เป็น การวิเคราะห์ นะคะ
8.นำข้อมูลทุกอย่างมาเชื่อมโยงกันให้สมเหตุสมผล แค่นี้ก็ตีความได้แล้วค่ะ ^^ (การสังเคราะห์)
จากwikipedia
- สุจิตต์ วงษ์เทศ ศิลปินแห่งชาติ ได้วิเคราะห์และตีความเรื่องพระอภัยมณีไว้ในหนังสือ สุนทรภู่ เกิดวังหลัง ผู้ดีบางกอก มหากวีกระฎุมพี มีวิชารู้เท่าทันโลกและชีวิต ว่า พระอภัยมณีเป็นวรรณคดีการเมืองที่ต่อต้านการล่าอาณานิคมของชาติตะวันตกในขณะ นั้น แต่สุนทรภู่ใช้กลวิธีแต่งเป็นนิทานกลอนปกปิดไว้อย่างแนบเนียน สามารถเห็นได้จากการที่ตัวละครเอกของเรื่องอย่างพระอภัยมณีที่ใช้ปี่ในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ซึ่งหมายความว่าให้แก้ปัญหาด้วยสติปัญญาและสันติภาพนั่นเอง
- ทองแถม นาถจำนง นักคิด นักเขียน และคอลัมนิสต์สยามรัฐ ก็ได้วิเคราะห์เรื่องพระอภัยมณีไว้คล้ายคลึงกับสุจิตต์ คือพระอภัยมณีสะท้อนภาพยุคที่นักล่าอาณานิคมขยายอิทธิพลเข้ามาสู่สยาม นอกจากนี้ทองแถมยังระบุด้วยว่า สงครามระหว่างพระอภัยมณีกับนางละเวงสะท้อนวิสัยทัศน์ของปราชญ์สยามในยุคนั้น ที่เริ่มมองเห็นปัญหาจากการรุกรานของชาติตะวันตกชัดขึ้น และวิสัยทัศน์ที่สุนทรภู่เปลี่ยนเรื่องสงครามการรบเป็นสงครามรักนั้นน่า ประทับใจมาก
- นอกจากนี้ยังมีผู้ที่ได้วิเคราะห์วรรณคดีเรื่องนี้ไว้อย่างน่าสนใจ โดยกล่าวว่าการเป่าปี่ของพระอภัยมณี เป็นการคิดในเชิงปรัชญาพุทธ
คือสุนทรภู่ให้พระอภัยมณีพอใจที่จะเรียนวิชาปี่
แทนที่จะให้ชำนาญอาวุธต่างๆ และยังให้พระอภัยมณีเป็นคนรูปงาม อ่อนแอ
อ่อนโยน รักและมีความรู้เสียงดนตรี รู้จักใช้ดนตรีในการกล่อมใจคนและฆ่าคน
ในลักษณะนี้พระอภัยมณีเป็นตัวละครที่สุนทรภู่สร้างขึ้นมาเพื่อให้รู้จัก
วิสัยของมนุษย์ปุถุชนที่ยังหลงในรูปรสกลิ่นเสียงสัมผัส
และเอารูปรสกลิ่นเสียงสัมผัสนั้นมาเป็นเครื่องมือในการแก้ปัญหา
ในตอนท้ายพระอภัยมณีออกบวช ซึ่งสามารถตีความได้ว่า พระอภัยมณีเบื่อหน่ายในเรื่องโลกียสุข จึงละปัญญาในระดับโลกียะ ไปแสวงหาปัญญาในระดับโลกุตตระแทน
(อันนี้เป็นแบบสั้นๆนะคะ)
wikipedia เป็นเว็บไซต์ที่มีประโยชน์มากๆ เวลาเข้าไปหาข้อมูล ลองเลื่อนลงมาอ่านที่อ้างอิง จะมีเว็บไซต์อื่นๆที่เป็นประโยชน์อีกเยอะค่ะ :)
- ถ้าอยากอ่านการตีความเรื่องพระอภัยมณีเพิ่มเติม มีลิ้งค์นี้ค่ะ >> http://www.sujitwongthes.com/wp-content/uploads/2010/06/stp50-115.pdf (สุจิตต์ วงษ์เทศ)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น